TBN เคาะราคา IPO 17 บ./หุ้น เปิดจองซื้อ 12-14 มิ.ย. นี้ 

“บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TBN)” ประกาศเคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 17 บาท กำหนดเปิดให้จองซื้อวันที่ 12–14 มิ.ย. ปักธงเทรด mai 19 มิ.ย. นี้  เงินระดมทุนใช้รองรับแผนการขยายธุรกิจ เพิ่มและพัฒนาบุคลากร พร้อมก้าวสู่ผู้นำในการพัฒนาและให้บริการด้าน Digital Solutionsที่ขับเคลื่อนด้วยLow-code สะท้อนความเป็นผู้นำเทคโนโลยีLow Code ในเอเชียที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี  

โดยล่าสุด TBN ลงนามในสัญญาการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทหลักทรัพย์ ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด พร้อมด้วย บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน

นายธีรฉัตร ศิลปสนธยานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม  หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN เปิดเผยว่า ทีบีเอ็น ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) จำนวน 25 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท ที่ราคาหุ้นละ 17 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 12-14 มิถุนายน นี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH)  ในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ในชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “TBN”

สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 17 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม ชูจุดเด่นที่น่าสนใจของ TBN เป็นผู้ให้บริการ Low-Code แพลตฟอร์มที่เป็นเทรนด์ของธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องการพัฒนาซอฟท์แวร์แอพพลิเคชันที่รวดเร็ว อีกทั้งประสบการณ์ที่มากกว่า15ปีและทีมงานผู้เชี่ยวชาญในด้านการให้บริการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์Low-code เป็นโอกาสขยายตลาดตอบโจทย์ลูกค้า สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคตไปกับยุคของดิจิทัล

ด้านนางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ  บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวถึงจุดเด่นของ TBN ว่า เป็นผู้ให้บริการ Low-Code ที่มีประสบการณ์มากที่สุดในเอเชีย โดยได้รับความไว้วางใจจาก Siemens  แต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ MENDIX เพื่อผลักดันการใช้ LowCode Platform รายแรกในประเทศไทย และปัจจุบันมีเพียงรายเดียว ตอกย้ำการเป็นพันธมิตรกับผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ได้รับความไว้วางใจจากบรรษัทข้ามชาติ และลูกค้าบลูชิปทั่วอุตสาหกรรม

อีกทั้ง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว CAGR ที่ 31.60% พร้อมแนวโน้มเชิงบวกในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และเป็นผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัลแบบครบวงจรที่มีรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) ณ สิ้นปี 2565 อยู่ในระดับสูงมากกว่า 50% ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในรายได้ของ TBN มีความมั่นคงต่อเนื่อง
พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการพัฒนาและให้บริการเทคโนโลยีLow-codeที่นำมาเป็นตัวขับเคลื่อนการทำDigital Solutionsจนได้รับการยอมรับสูงสุดในเอเชีย

นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญที่จะสนับสนุนให้ TBN เติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในการพัฒนาและให้บริการด้าน Digital Solutions ด้วยวิสัยทัศน์ มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Low Code และ AI-Driven และสร้าง Digital Transformation เพื่อยกระดับธุรกิจคู่ค้า ให้ไปสู่ระดับภูมิภาค

โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 425 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน เช่น ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อรองรับการทำ Digital Transformation ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ใช้ในการเพิ่มจำนวนบุคลากร การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับจำนวนโครงการและจำนวนบุคลากรที่เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น 

               ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายทีมงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับงานโครงการประเภทงานพัฒนาระบบ (Digital Solution Services) ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นในอนาคตจากการที่หลายองค์กรให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในองค์กรมากขึ้น ควบคู่ให้ความสำคัญในการควบคุมต้นทุนการให้บริการ จึงได้จัดตั้งแผนก TBN MENDIX Academy เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคคลากรทางด้านเทคโนโลยีและต่อยอดธุรกิจที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 มีรายได้จากการให้บริการของบริษัทฯ อยู่ที่ 360.55 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นจากการให้บริการ 102.39 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 28.40 และมีกำไรสุทธิ 35.56 ล้านบาท ล่าสุดผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2566 มีรายได้จากการให้บริการของบริษัทฯ อยู่ที่ 116.83 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นจากการให้บริการ 49.22 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 42.13 และมีกำไรสุทธิ 25.98 ล้านบาท

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า TBN ถือเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม Low-Code ในประเทศไทย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้การพัฒนาแอพพลิเคชั่นมีความรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม 6-10 เท่า โดยไม่ต้องอาศัย Software Developer จำนวนมาก ทำให้เกิดผลลัพท์ทางธุรกิจสูงขึ้น จึงเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ แต่ยังถือเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาด โดยปัจจุบัน TBN มีลูกค้าทั้งกลุ่มธนาคาร สถาบันการเงิน ค้าปลีก อุตสาหกรรมโรงงาน และภาครัฐ เป็นต้น  

เงินระดมทุนครั้งนี้ จะสนับสนุนให้ TBN สามารถขยายการให้บริการพัฒนาแอปพลิเคชันของบริษัทฯ และขยายขอบเขตการขายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ (License) ไปสู่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อย่างครอบคลุม เช่น อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย เพื่อสร้าง Platform Solution และต่อยอดการให้บริการ MENDIX สำหรับสถาบันการเงิน การธนาคาร ธุรกิจประกันภัย และอุตสาหกรรมอื่นๆ สร้างฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงการเพิ่มยอดขายในลูกค้าเก่า ตอกย้ำ TBN คือหนึ่งในผู้นำการพัฒนาและให้บริการด้าน Digital Solutions ที่เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต